tag:blogger.com,1999:blog-32087359487348924392024-03-15T01:28:54.619+07:00มุมที่ต่าง องศาที่เปลี่ยนแบ่งปัน ความสุข ประสบการณ์Unknownnoreply@blogger.comBlogger57125tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-16388457679112219652009-01-25T10:21:00.005+07:002009-01-25T10:34:08.087+07:00ไม่คาดคิดเมื่อวานศุกร์ ระบบมีปัญหา กู้ระบบกว่าจะเข้าสู่สภาพปกติ ตอน 4 ทุ่มกว่าๆ กลับถึงบ้าน เกือบเที่ยงคืน .... บทบาทของ admin ระบบ<br /><br />เมื่อวานมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ต้องอยู่ standby ที่ ..... จนถึง 2 ทุ่ม นี่เรียกว่าบทบาทของลูก กว่าจะถึงบ้านก็ปาเข้าไป 3 ทุ่มกว่าๆ รีบ backup ข้อมูลตามที่ commit ก่อนรู้เรื่องไม่คาดคิด นี่เรียกว่าบทบาทของที่ปรึกษา และ admin<br /><br />วันนี้เป็นวันไหว้ในเทศกาลตรุษจีน โดยปกติจะไม่ค่อยได้อยู่ช่วยแม่ในวันไหว้นี้ เนื่องจากเป็นวันทำงาน ในขณะที่ปีนี้วันไหว้ตรงกับวันอาทิตย์ แต่ก็ไม่สามารถอยู่ช่วยได้ มา standby ดูระบบกับน้องที่ออฟฟิศ นี่ก็คือบทบาทของหัวหน้า<br /><br />ช่วงบ่ายต้องไป standby ที่ .... คงถึง 2 ทุ่ม นี่เรียกว่าบทบาทของลูก <br /><br />เสร็จงานนี้ คงต้องทบทวนบทบาทเป็นครั้งใหญ่ ......<br /><br /><img src="http://www.capitalhealth.ca/NR/rdonlyres/e3f64xgs4bbvkkhas5dzyzvdxl5vcirths5buuczhbkcrkuchs3ovancklcfzmvxdna2xlabs3hq5qrheotal22vzfd/workaholic.jpg"><br /><br />ภาพประกอบ: http://www.capitalhealth.ca/Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-85023839045332046112009-01-12T08:48:00.000+07:002009-01-12T08:49:01.338+07:00เรื่องของความ สำคัญ และ ไม่สำคัญ1) สำคัญและเร่งด่วน ต้องทำโดยเร็วที่สุด และต้องทำให้ดีด้วย อันเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดหากวางแผนไว้ดี<br />2) สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน เป็นเรื่องที่น่าจะทำได้ดีที่สุด รีบทำเสียเนิ่นๆ จะได้ทำได้ดี และไม่กลายเป็น ข้อ 1) ในที่สุด<br />3) ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน อันนี้แปลก ต้องรีบทำนะ แต่จริงๆ น่ะไม่ทำก็ได้ เช่น ดูละครทีวีที่กำลังฉายเป็นต้น...<br />4) ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน ไม่ทำก็ได้ แต่หลายๆคนก็ให้เวลากับตรงนี้อยู่มาก <br /><br />หากคนเราให้เวลากับการทำงานในข้อ 2) ให้ได้มาก ก็จะทำให้งานนั้นออกมาดี (เพราะไม่ต้องรีบ) และก็น่าจะประสบความสำเร็จในชีวตได้มากที่สุด เพราะว่าได้ใช้เวลาในการทำงานที่ "สำคัญ" มากกว่าอย่างอื่นนั่นเอง ความลับของความสำเร็จของคนก็อยู่ตรงนี้ คือพยายามวางแผนกละจัดเวลาให้ได้ทำงานในลักษณะของข้อ 2) ให้ได้มากที่สุด เพราะนั่นหมายถึงเราจะทำงานที่สำคัญที่สุด ได้ดีที่สุดนั่นเอง<br /><br /><br />ที่มา: http://www.siaminfobiz.com/mambo/content/view/1081/39/Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-34240635592897699242008-12-31T23:25:00.005+07:002009-01-01T14:01:04.705+07:00เป้าหมาย 20091. ฝึกดูจิต ทุกวัน<br />2. ถ่ายทอดความรู้ให้มากขึ้น อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือเอกสาร 1 ฉบับ / เดือน<br />3. อ่านหนังสือ อย่างน้อยเดือนละ 2 เล่ม<br />4. คลอเลสเตอรอล น้อยกว่า 200<br />5. คิดและลงมือทำ (Think & Do) โดย Do ให้สำเร็จ มากกว่า 60 % ของ Think<br />6. ให้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน<br />7. กินน้ำอย่างน้อย วันละ 1000 ccUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-54300714242174294162008-12-30T19:13:00.000+07:002008-12-30T19:14:27.613+07:00ถั่วเป็นที่รู้กันในกลุ่มเพื่อนสนิทว่า เป็นคนไม่ชอบกินถั่ว ไม่ว่าจะเป็นถั่วอะไร หรือเจ้าถั่วนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ใดๆ หากมีทางเลือกจะเลี่ยง แล้วก็เลี่ยงมานานจนจำไม่ได้ว่า ทำไมถึงไม่กินถั่ว <img src="http://images.multiply.com/common/smiles/embarassed.png"><br /><br />เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไปงานศิลปาชีพที่สวนอัมพรกับพี่สนิท แล้วก็เจอร้านนึงขายเจ้าถั่วนี้เข้า(ดังภาพข้างล่าง) พี่สนิทสนใจ อาสาเข้าไปหยิบมาให้ชิม แล้วพี่สนิทก็บอกว่าอร่อยดี แล้วเราก็เผลอหยิบเข้าปาก เคี้ยว (ทุกทีจะกินแต่น้ำตาลเคลือบ แล้วจะคายถั่วทิ้ง) อร่อยดีแฮ่ะ ซื้อเลย ครึ่งโล <img src="http://images.multiply.com/common/smiles/wink.png"><br /><br /><img style="width: 187px; height: 140px;" src="http://www.kruaklaibaan.com/forum/uploads/post-57-1213682813.jpg"> <br><br>เดินเที่ยวในงาน คนอื่นเค้าเลือกซื้อผ้าไหม ผ้าฝ้าย สองคนนี้เพลิดเพลินกับการกินถั่ว และถั่วนี้ก็อร่อยจริงแฮ่ะ กอปรกับตอนกลับบ้าน รถติด ไม่มีอะไรทำ เพลินหล่ะสิ เคี้ยวไปเรื่อย แล้วยังจะหันไปพูดกับพี่สนิทว่า พี่ต้องกินน้ำเยอะๆ นะ จะได้ไม่ระคายคอ <img src="http://images.multiply.com/common/smiles/embarassed.png">< br><br>ตอนกลางคืน เริ่มมีอาการ ระคายคอ และไอ เหอๆ เผลอแผล่บเดียว ผ่านมา 3 วัน ยังไม่หาย หมอวินิจฉัยว่า เป็นหวัดและคออักเสบ เสียตังค์ค่าหมอและยาไป 1,030 บาท มึนและซึมไปเพราะยาที่หมอจัดให้ ไม่สนุกเท่าไรกับการที่ป่วยในช่วงเทศกาลสิ้นปี-ปีใหม่แบบนี้<br>แต่ก็ ช่วยทำให้รู้ว่า เหตุของการไม่กินถั่ว คือ แพ้ถั่วนี่เอง <img src="http://images.multiply.com/common/smiles/embarassed.png"> <br><br>บันทึกไว้ว่า <br>แพ้: ถั่ว และ ป๊อบคอร์น <br>ชนะ: ปู แล้น <img src="http://images.multiply.com/common/smiles/wink.png"><br>& lt;br>ภาพประกอบ: http://www.kruaklaibaan.com/Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-85881079363737233662008-11-19T22:25:00.005+07:002008-11-19T22:35:09.343+07:00อยากเปลี่ยนนานมาแล้วเปลี่ยนมาทำงานชิ้นนึงที่ไม่มีพื้นฐานใดๆมาก่อน ด้วยการสนับสนุนและผลักดันของเพื่อนที่สนิท ทั้งๆที่ตอนนั้นคิดว่า...เดิมก็ดีอยู่แล้ว <br><br>มาในตอนนี้ สถานะการณ์ต่างจากเดิม วันเวลาเปลี่ยน ไม่มีใครผลักดัน หรือสนับสนุนให้เปลี่ยนเฉกเช่นในอดีต แค่รู้สึกว่าบางอารมณ์ก็รู้สึกเต็มอิ่ม ก็แค่อยากลองเริ่มจาก ศูนย์ ดูบ้าง (โชคดีที่ไม่ติดลบ) <img src="http://images.multiply.com/common/smiles/embarassed.png"> <br /><br />จากจุดที่อยากเปลี่ยน คงต้องเตรียมความพร้อมอะไรอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะทำตัวเป็นภาชนะเตรียมรับสิ่งใหม่ๆUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-21535052608095390612008-08-01T13:39:00.000+07:002008-08-01T13:40:29.058+07:00ที่ว่างทำไมในหนึ่งสัปดาห์จะมีวันหยุด 2 วัน ?<br /><br />ทำไมเมื่อหนังสือขึ้นบทใหม่ จึงมีพื้นที่ว่างๆ ?<br /><br />ทำไมการแต่งทำนองเพลง จึงมีตัวหยุดโน้ต ?<br /><br />ทำไมร่างกายเราจึงต้องการการพักผ่อน ?<br /><br />ฤาจะเพียงเพราะหยุด เพื่อทบทวนตนเอง และเริ่มต้นใหม่ (จริงหรอ?)<br /><br />ลาหยุดคราวนี้ หายหน้าหายตาไป 3 วัน ได้สะสางสิ่งที่ค้างคามานาน <br /><br />- สะสางฝุ่นในที่ต่างๆ ทำไมมันเยอะอย่างนี้ <br /><br />- สะสางคิวที่อยากทำ ด้วยการชม "ตามรอยพระพุทธเจ้า" จบไปแล้ว 1 รอบ อยากจะชมด้วยความตั้งใจอีกรอบUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-1913304409768304792008-04-20T23:17:00.004+07:002008-04-20T23:28:33.374+07:00ทำไมจึงต้องขว้างปลาดาว ?ช่วงนี้เบื่อเน็ตอย่างไรชอบกล จึงใช้เวลาไปทำอย่างอื่นแก้เบื่อด้วยการ ยืมหนังสือจากห้องสมุดบริษัทฯ มาหลายเล่ม คืนนี้อ่านจบไปหนึ่งเล่ม หยิบหนึ่งตอนจากเล่าให้คิด มาบันทึกที่นี่ <br /><br />ทำไมจึงต้องขว้างปลาดาว ? <br /><br />ลอเร็น ไอซลีย์ เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ และ นักเขียนชื่อดัง เช้าวันหนึ่ง..... เขาไปนั่งเล่นบริเวณโขดหินริมทะเล มองออกไปไกลๆ ตามแนวชายหาดยาวสุดสายตา เขาสังเกตเห็นชายคนหนึ่งวิ่งจากชายหาดเข้าไปหาคลื่น แล้วก็หันหลังกลับเข้ามา ทำเช่นนี้อยู่ตลอดเวลาประหนึ่งว่า กำลังเต้นรำอยู่ริมชายหาด<br /><br />ไอซลีย์จึงตัดสินใจออกเดินไปตามทิศทางนั้น สักพักหนึ่งก็มาถึง เมื่อเดินเข้าไปไกลพอ จึงได้ถามขึ้นว่า<br /><span style="font-style:italic;"><br />"พ่อหนุ่ม กำลังทำอะไรอยู่หรือ ?"<br />"พระอาทิตย์กำลังขึ้น น้ำทะเลกำลังลดลง และปลาดาวก็กำลังจะตาย" ชายหนุ่มตอบ<br />"ชายหาดนี้ยาวนับ 10 ไมล์ พ่อหนุ่มคงช่วยอะไรไม่ได้นักหรอก แล้วจะทำไปทำไม ?" </span> ไอซลียร์ถามด้วยความสงสัย<br /><br />คราวนี้ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่กลับก้มลงไปหยิบปลาดาวขึ้นมาอีก 1 ตัว แล้วก็วิ่งออกไปจนใกล้คลื่นที่สุด แล้วขว้างปลาดดาวออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วเขาก็วิ่งกลับมาตอบกับไอซลีย์ว่า<br /><br />"<span style="font-style:italic;">อย่างน้อยผมก็ทำให้มันรอดไปได้อีก 1 ตัวแล้วไง</span>" (I made a difference for that one!) <img src="http://2.srv.fotopages.com/2/6251945/StarFish.jpg" width="25%" height="25%"><br /><br />ไอซลีย์หันหลังกลับด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจในตัวชายหนุ่มผู้นั้น ระหว่างที่เขานั่งเขียนหนังสือไปจนถึงบ่ายแก่ๆ เขาก็ยังคิดไม่ออกว่า <br />เจ้าหนุ่มนั่น... มันทำอย่างนั้นทำไม !<br /><br />ในที่สุด ตอนค่ำๆ เขาจึงคิดได้ว่า ชายหนุ่มคนนั้น เขาไม่ต้องการนั่งดู-นั่งรอ ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในโลก แต่อะไรก็ตาม ที่เขาจะสามารถมีส่วนสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ต่างหาก.... เป็นสิ่งที่เขาต้องการ คิดได้ดังนั้นแล้วไอซลีย์จึงรีบเข้านอนแต่หัวค่ำเป็นพิเศษ<br /><br />ไอซลีย์ตื่นขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ รีบแต่งเนื้อแต่งตัวเพื่อออกไปหาชายหนุ่มคนนั้น...... เพื่อช่วยขว้างปลาดาว !<br /><br />ข้อชวนคิด<br />+ การนั่งดู หรือ นั่งประหลาดใจสงสัยว่า กำลังมีอะไรเกิดขึ้น คงไม่ได้ช่วยให้เกิดพัฒนาการใดๆ ขึ้นได้<br />+ การร่วมแรงร่วมใจ-การลงมือทำเพียงคนละไม้คนละมือ อย่าว่าแต่เรื่องใดๆ ในองค์กรของเราจะเปลี่ยนแปลงได้เลย โลกก็คงไม่พ้นมือเราไปได้ !<br /><br />นำมา "เล่าให้คิด......Leader as Storyteller"Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-84228929872055240182008-03-01T16:41:00.003+07:002008-03-01T17:13:52.329+07:00Young 4ever<a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7jAKb2fNRZwgvOj0HsHC_D4Ytu7uOnbrWdf0h8jnDdWh7FPUVz_in-p8CwbEuBDlCTwWiSHT8lq3zDYw9LXqkr9_-W-tgT6zzGUPqLxL0vz1TVEfpclMvl1kE993L6SVfghsBr4gXFqOX/s1600-h/youngforever"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7jAKb2fNRZwgvOj0HsHC_D4Ytu7uOnbrWdf0h8jnDdWh7FPUVz_in-p8CwbEuBDlCTwWiSHT8lq3zDYw9LXqkr9_-W-tgT6zzGUPqLxL0vz1TVEfpclMvl1kE993L6SVfghsBr4gXFqOX/s400/youngforever" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5172712125204060882" /></a><br /><br />เหตุเกิดจาก จอมอนิเตอร์ LCD มีอาการติดๆ ดับ ๆ ทางศูนย์ฯ แนะนำว่าให้ส่งซ่อม วันนี้จึงเตรียมตัวไปที่ศูนย์ หิ้วจอมาตั้งรอฤกษ์ (รอกินข้าวเช้า+เที่ยง) แม่เห็นกล่องจอ จึงเอ่ยปาก "เดี๋ยวแม่จะให้ยามไปเรียกรถ taxi ให้" (แม่คงรู้นิสัยว่า ไอ้ลูกคนนี้ปากหนัก ไม่ใช้ใครง่ายๆ) เราก็นั่งเรื่อยเฉื่อยในบ้าน รู้อีกทีก็ taxi มาจอดหน้าบ้านพร้อมกับแม่ที่ลงจากรถ <br /><br />แป่ว..... นี่แม่ออกไปเรียก taxi ให้หรือนี่ <br />แม่ลงจากรถ หัวเราะ แห่ะๆ พร้อมกับพูดว่า กลัวว่ายามจะไม่รู้จัก พันธ์ทิพ (ปัดโธ่....บาปกรรม จริงๆๆๆ เรา - -")<br /><br />บุคคลในโลกนี้ที่หาได้ยาก 2 คน <br />+ ผู้ที่มีพระคุณ<br />+ ผู้ที่ตอบแทนคุณ <br /><br />สำหรับเราแล้ว ไม่ได้เป็นทั้ง2ข้อ ไม่ได้เป็นผู้มีพระคุณกับใคร และ ยังตอบแทนคุณผู้มีพระคุณไม่ได้อย่างที่ใจอยากทำ <br /><br />เคยมีคนบอกว่า ไม่ว่าจะอายุสักเท่าใด ผู้ที่เป็นพ่อแม่คิดเสมอว่า ลูกยังเป็นเด็ก จวบจนทุกวันนี้ แม่ก็ยังเห็นว่าเราเป็นเด็ก แม้ว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับเราตอนนี้จะเป็นแม่คนไปแล้วก็ตาม - -"Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-80210387279946282892008-02-16T12:05:00.003+07:002008-02-16T12:09:15.548+07:00บันทึกการอ่าน<a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh0GBEZMNC5x6_vi7I8AFEisRdcXO2HR-YTAgwuF10yzrZFG3Mb-LMJBlw8NJkbfLcR9JWooOpKpNaG4RNbuceM0oZYfiPtdfm1TEI4ICO-NSFM9tbpl_BoYNmWC41HTj5b1r-ISl-jf-nU/s1600-h/titi.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh0GBEZMNC5x6_vi7I8AFEisRdcXO2HR-YTAgwuF10yzrZFG3Mb-LMJBlw8NJkbfLcR9JWooOpKpNaG4RNbuceM0oZYfiPtdfm1TEI4ICO-NSFM9tbpl_BoYNmWC41HTj5b1r-ISl-jf-nU/s400/titi.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5167440213904531778" / width="25%" height="25%"></a><br /><br />คำว่า <span style="color: rgb(255, 102, 0);">ทิฐิ</span> จริงๆ แล้วมีทั้งที่เป็นสิ่งที่ดี ที่เรียกว่า "<span style="color: rgb(255, 102, 0);">สัมมาทิฐิ</span>" และ ที่เป็นสิ่งที่ไม่ดีเรียกว่า "<span style="color: rgb(255, 102, 0);">มิจฉาทิฐิ</span>" แต่ถ้าทิฐิอยู่เดี่ยวๆ แล้วมักจะหมายถึง "ความอวดดี อวดดื้อ ถือดี ถือตัว อันเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งในการบริหารองค์กร ตลอดจนการดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่น<br><br>ทิฐิ เป็นเหมือนปราการที่คอยปิดกั้นความรู้ ความเห็นของคนอื่น ด้วยเห็นว่าสิ่งที่ตนเองคิด สิ่งที่ตนเองเข้าใจ เป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการปิดกั้นปัญญา รวมทั้งข้อมูลสำคัญๆที่ควรทราบ และ ที่แย่ไปกว่านั้น คือ ทิฐิ เป็นเหมือนฐานที่คอยหนุนให้คนรู้สึกว่าตนเองสูงกว่าคนอื่น ดีกว่าคนอื่น เหนือกว่าคนอื่น...จะว่าไปแล้ว ทิฐินี้เองที่เป็นเครื่องตัดความเชื่อมโยงระหว่างตนเองกับคนอื่น และ ทำให้ผู้มีทิฐินั้น โดดเดี่ยวโดยไม่รู้ตัว...................<br><br>คัดลอกมาจาก: นิตยสาร Productivity World ประจำเดือน มกราคม 2551<br>ภาพประกอบ: http://my.dek-d.com<br>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-50796805494028420262008-02-06T21:55:00.000+07:002008-02-06T22:05:28.845+07:00ี่เปลี่ยนไป<a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjY1NenPBwcgOMbSAr5XOSaMO47rrTRJktrLqsz_Rm6ayrPgzaZTaQEJ9hNkEEnxrYzNCmZFCJUft2OiPdo4oRbzdOeanf3XR-rpxHV-shjw-jJkb8e2yoYFX6hbI7L9D20yAjAcF4SPgTO/s1600-h/Salvador_Dali__s_Melting_Clock_by_lianu.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjY1NenPBwcgOMbSAr5XOSaMO47rrTRJktrLqsz_Rm6ayrPgzaZTaQEJ9hNkEEnxrYzNCmZFCJUft2OiPdo4oRbzdOeanf3XR-rpxHV-shjw-jJkb8e2yoYFX6hbI7L9D20yAjAcF4SPgTO/s400/Salvador_Dali__s_Melting_Clock_by_lianu.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5163883303865584370" /></a><br /><br />เวลาผ่านไปทุกวินาที หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลง บางสิ่งบางอย่างดีขึ้น บางสิ่งบางอย่างคงเดิม บางสิ่งบางอย่างแย่ลง บางสิ่งบางอย่างผ่านเข้ามา บางสิ่งบางอย่างผ่านไป บางความรู้สึกดีใจ บางความรู้สึกเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ต้องจัดการกับสิ่งต่างๆ ให้ได้Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-53250407866364601102008-01-26T08:13:00.000+07:002008-01-26T08:40:00.987+07:00ประเมินผ่่านมา 10 เดือน ถูกจ้างให้เป็นผู้บริหาร ใน 1 วัน มีเพียง 1 ชั่วโมงทีเล่นบทผู้บริหาร ที่เหลือยังเป็นพนักงานปฎิบัติ เมื่อเค้าจ้างให้เป็นผู้บริหารแม้จะยังไม่ได้เป็นมืออาชีพ ก็พยายามฝึกต่อไป <br /><br />เมื่ออยู่ตรงกลางจึงจำเป็นต้องสื่อสารความต้องการของนาย/ฝ่ายอื่นๆ และ ความต้องการของลูกน้องไปพร้อมๆกัน แม้จะเป็นความต้องการที่สุดขั้ว <br /><br />อย่างเรื่องผลตอบแทน พนักงานต้องการผลตอบแทนมากๆ ในขณะที่นายคิดว่าพนักงานตอบแทนอย่างไรให้บริษัทฯ และจุดที่สมดุลย์อยู่ที่ใด มีระบบประเมินทุกปี จะมีสักกี่คนที่เข้าใจระบบประเมิน ระหว่างโบนัสและเงินเดือน ต่างกันอย่างไร <br /><br />จึงขอบันทึกช่วยจำ ความแตกต่างของหลักการการประเมินโบนัส และ ประเมินการปรับเงินเดือนไว้ที่นี่<br /><br />โบนัส: การประเมินผลงานที่ทำตลอดทั้งปี (Performance) โดย keyword คือ เรื่องอดีต <br />เงินเดือน: การประเมินผล ว่า คนๆ นึงจะมีความสามารถ ทำ... ให้บริษัทอย่างไร (Potential) โดย keyword เรื่องอนาคตUnknownnoreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-32052471533248753412008-01-20T18:35:00.000+07:002008-01-20T19:11:51.309+07:00พลังที่มองไม่เห็นเมื่อคืนตื่นกลางดึก คิดว่าจะทำอะไรดี นอกจากการใช้อินเทอร์เน็ต ดูทีวี เลือกที่จะหยิบหนังสือเล่มหนึ่งอ่าน ๆ ไปเรื่อยๆ จนจบเล่ม เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา ตี 4 เศษๆ แปลกใจที่อ่านจบอยากรวดเร็ว ทำให้ได้คิดอะไรบ้าง<br /><ul><br /><li>เข้าใจเหตุและผล ของการกระทำของ ผู้ใหญ่บางคนมากขึ้น<br /><li>เข้าใจว่าตัวเราควรทำอะไรบ้าง เพิ่มขึ้นบ้าง <br /><li>เข้าใจว่าเราอ่านมามาก สิ่งที่เหลือคือการ ปฏิบัติ ที่ต้องฝึกฝน และ ทำเป็นประจำ<br /><li>เข้าใจว่าจะกังวลบางเรื่องไปใย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แก้ไขที่ต้นเหตุจะดีกว่า เสียพลังงานไปกังวล<br /></ul>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-74832940321491011402008-01-08T21:21:00.000+07:002008-01-08T21:44:08.356+07:00เวลาสำหรับชีิวิตเมื่อช่วงเย็นหลังจากเลิกงาน ตั้งใจเดินออกกำลังกาย ที่มหาวิทยาลัย ข้างๆ ออฟฟิศ การเดิน การวิ่ง เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่ง ที่ผู้ออกกำลัง สามารถกระทำได้โดยตามลำพัง ไม่ต้องพึ่งพิงใคร ระหว่างเดินสังเกตุ เพื่อนร่วมลู่ ต่างคนต่างเดิน ต่างคนต่างวิ่ง ไม่มีใครคุยกัน (ก็เค้าไม่รู้จักเรานี่นา) การเดิน เป็นการออกกำลังกายที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการ เช่าพื้นที่ หรือซื้ออุปกรณ์แพงๆ ขอให้มีเวลาเท่านั้นก็พอ ระหว่างเดินทบทวนหลายๆ เรื่องในชีวิต ไม่น่าเชื่อเผลอแผลบเดียว ก็มืดเสียแล้ว (คิดซะหลายเรื่อง) เวลาผ่านไป 40 นาทีแล้ว แค่นี้ก่อนละกันสำหรับการเริ่มต้น (Think and Do) <br /><br />จากนั้นเดินกลับมาออฟฟิศ แวะที่ร้านหนังสือใต้ตึก (อยากให้เหงื่อแห้ง ก่อนกลับขึ้นไปทำงานต่อ) หยิบหนังสือหนังสือ<a href = "http://www.faylicity.com/book/book1/creamcan.html">เล่มนึง</a>ขึ้นมาดูและเผลอพลิกอ่านจนเกือบจบ (เกรงใจคนขาย) ลุกคืนแล้วเลือกเล่มอื่น เผื่อซื้อกลับบ้าน พอได้เล่มที่สนใจ พลิกดูราคา 250 บาท เอ่อ มีเงินติดตัวมาแค่ 200 บาทเอง ค่อยๆ ลุกเดินออกจากร้าน ขออภัยน้องคนขายนะ เงินไม่พอจริงๆ - -"Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-36172810575145947872008-01-03T23:25:00.000+07:002008-01-03T23:47:30.701+07:00หน้าที่แรก ประจำปี 2008วันนี้เป็นวันแรกของปีที่ทำหน้าที่ ในการขายความฝัน(แผน) ให้ผู้บริหารฯ ท่านอื่นๆ ฟัง และแล้วก็เสร็จลุล่วงไป ตะลึงกับการไม่ถูกยิง คำถามใดๆ กลางห้องประชุม การไม่ถาม ตีได้ 2 ความหมาย คือ การ present เคลียร์มาก กับอีกกรณีหนึ่งคือ ไม่น่าสนใจ อย่างไรก็ดี ในเมื่อไม่มีคำถามก็ยกผลประโยชน์ให้เจ้า presentation ละกัน<br /><br />ขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลัง ... "นาย" "เพื่อนสนิท" และ พี่สนิทUnknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-90508726285255762512008-01-01T01:55:00.000+07:002008-01-01T02:04:47.902+07:00งานเข้า ฉลองปีใหม่ต้อนรับปีใหม่ปีนี้(2008) ตั้งใจไว้ว่า <br /><br />1. คิดและลงมือทำ (Think & Do) ให้มากขึ้น บ่นให้น้อยลง<br />2. เป็น "ผู้ให้" ให้มากขึ้น <br />3. ถ่ายทอดความรู้ให้มากขึ้น <br />4. หลุดพ้นจากข้อจำกัดและ เป็น positive thinker ให้มากขึ้น<br />5. มีความฉลาดทางอารมณ์และเป็นผู้ใหญ่ให้มากขึ้น<br />6. ให้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น<br />7. อ่านหนังสือให้มากขึ้น <br />8. บริหารเวลาและจัด priority ต่างๆ ให้กับชีวิตให้ดีขึ้น<br />9. ดูแลสุขภาพให้มากขึ้น eg. กินน้ำมากขึ้น ลดคลอเลสเตอรอล และ ออกกำลังกายให้มากขึ้น<br /><br />ดูสวยหรู กลางปีและปลายปีมาดูว่า ผลเป็นอย่างไร กว่าจะถึงตอนนั้น มาดูว่า ปีที่แล้ว ตั้งใจไว้ว่าอะไร <br /><blockquote><font size="1"><br /><br />New Year Resolution: 2007<br />1. มาทำงานก่อนเวลา และไม่กลับบ้านค่ำ :: ทำไม่ได้ ผลกลับตรงกันข้าม ดึกกว่าเดิม นอนดึกกว่าเดิม<br />2. ส่งงานให้ตรงเวลา<br />3. แสดงความคิดเห็น(สื่อสารให้มากขึ้น)<br />4. หาทายาท(รับงาน)<br />5. อ่านหนังสือให้มากขึ้น<br />6. ทำบุญ และนั่งสมาธิ (ระวังหมดอายุ)<br />7. Positive Thinking ให้มากขึ้น (จะได้ไม่หดหู่)<br />8. คลอเลสเตอรอลต้องน้อยกว่า 200<br />9. ทำบัญชีการใช้จ่าย(ส่วนตัว) และเพิ่มเงินออม<br />10. ทาสีรั้วบ้าน (ไม่ได้ทาสี ตั้งแต่เรียนโท) :: เสร็จแล้วจ๊า<br />11. สอบ TOEIC ให้ผ่าน: เป้าหมายก่อนวันเกิด ให้ของขวัญวันเกิด<br />12. เฮ้อ ข้อนี้ยาก ทำให้กล้วยไม้้แคทลียา(พันธุ์อะไรไม่รู้)ออกดอกให้ได้ สู้มา 5 ปีแล้ว :: ออกแล้วจ๊า<br />13. ข้อนี้ลืมได้งัย :: ช่วยกันทำ IS ให้เป็นหน่วยงานที่ทำงานอย่างมีความสุข </font><br /></blockquote><br /><br />ดูผลสิ <br /><blockquote><br /><font size="1"><br />1. มาทำงานก่อนเวลา และไม่กลับบ้านค่ำ :: ทำไม่ได้ ผลกลับตรงกันข้าม ดึกกว่าเดิม นอนดึกกว่าเดิม<br />2. ส่งงานให้ตรงเวลา:: ไม่ได้เรื่อง พลาดเป้ากว่าเดิม<br />3. แสดงความคิดเห็น(สื่อสารให้มากขึ้น):: ยังทำไม่ได้อย่างที่คิด <br />4. หาทายาท(รับงาน):: หาทายาทได้ 40 % <br />5. อ่านหนังสือให้มากขึ้น:: อ่านหนังสือ non-technique เฉลี่ย 2 เล่ม/เดือน<br />6. ทำบุญ และนั่งสมาธิ (ระวังหมดอายุ) :: ทำบุญเพิ่มขึ้น แต่สมาธิแตกซ่าน<br />7. Positive Thinking ให้มากขึ้น (จะได้ไม่หดหู่) :: ข้อนี้ยังสอบไม่ผ่าน<br />8. คลอเลสเตอรอลต้องน้อยกว่า 200 :: กินกุ้งและปลาหมึกน้อยลง รวมทั้งไม่มองไข่ปลาหมึก แต่ใจนั้นโหยหา ทะลุเป้า 218 <br />9. ทำบัญชีการใช้จ่าย(ส่วนตัว) และเพิ่มเงินออม:: ข้อนี้กระเจิง ปีนี้ค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิม<br />10. ทาสีรั้วบ้าน (ไม่ได้ทาสี ตั้งแต่เรียนโท) :: ทำลายสถิติ 2 รอบ / ปี<br />11. สอบ TOEIC ให้ผ่าน: เป้าหมายก่อนวันเกิด ให้ของขวัญวันเกิด :: ทำไม่ได้ดังใจคิด<br />12. เฮ้อ ข้อนี้ยาก ทำให้กล้วยไม้้แคทลียา(พันธุ์อะไรไม่รู้)ออกดอกให้ได้ สู้มา 5 ปีแล้ว :: ออกแล้วจ๊า<br />13. ข้อนี้ลืมได้งัย :: ช่วยกันทำ IS ให้เป็นหน่วยงานที่ทำงานอย่างมีความสุข :: วัดไม่ได้ สถานะตอนนี้เป็นหัวหน้าแล้ว ใครจะกล้าบอกเราหล่ะ ^^<br /></font><br /><br /></blockquote>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-85166624246443140012007-11-24T12:09:00.000+07:002007-11-24T15:36:38.516+07:00ไม่................ทำงานมาหลายปี มีสินทรัพย์อย่างเดียวคือบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง มีเสียงชักชวนให้ซื้อบ้านใหม่ รถ และคอนโด หากจะซื้อสิ่งใด มองที่ความจำเป็น<br /><br />บ้าน คอนโด เพื่อพักอาศัย เมื่อมีหลังเล็กแล้ว จะมีบ้านหลังใหญ่หรือคอนโดอีกหลังไปใย จะนั่งจะนอนก็ได้เพียงแห่งเดียว ในเวลาหนึ่งๆ เท่านั้น<br /><br />รถ เพื่อการเดินทาง ปัจจุบันการเดินทางก็มี พาหนะสาธารณะ สะดวกพอควรตามอัตภาพ (ข้ออ้าง เสียกะมัง ยังไม่อยาก เลยอ้างซะ)<br /><br />ทั้งนี้และทั้งนั้นก็คงเป็นข้ออ้างของเรา พูดไปเรื่อยก็คงเหมือน องุ่นเปรี้ยว ^^Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-45008955411330311712007-11-20T21:16:00.000+07:002007-11-20T21:39:07.874+07:00ปฏิบัติการ หญ้า 2 กองต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชุมฝ่ายตามปกติ จากเดิมที่ให้แต่ละคนมารายงานตัวเองทำอะไรไปบ้าง ฟังดูน่าเบื่อ จึงเริ่มเปลี่ยนเป็นรายงานอุปสรรค และ เป้าหมายที่จะทำในแต่ละสัปดาห์ (เริ่มเปลี่ยนมาสัก 2 ครั้งที่ผ่านมา) จุดประสงค์ของการเล่าปัญหาเพื่อให้เป็นการ ลปรร ปัญหาและประสบการณ์ของเพื่อนร่วมทีม<br /><br />สัปดาห์นี้ก็เช่นกัน ปัญหาน้องคนแรกที่ติดปัญหาอยู่ 2 วัน และขอเวลา 2 วัน ในการหา solution ได้รับการแก้ไขด้วยคำแนะนำของน้องอีกคน (เพียงไม่ถึงชั่วโมง) และ ปัญหาของน้องคนที่ 2 ได้รับคำแนะนำของน้องคนแรก นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของ <font color="red">ปฎิบัิติการ หญ้า 2 กอง</font> เป้าหมายในวันนี้ไม่ใช่เป็นเพียงให้งานเสร็จตามเป้าหมายเท่านั้น <font color="red">ต้องการสร้างทีม ให้เป็นทีมอย่างแท้จริง </font> <br><br /><br /><a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhVSP4HKuFbbZh2M8rEIN8nagNrQePBrZyV7kcF-gG3NxzuOLBzruYoGj6CQiZs0XKX39_lVUyqni__5DXrpAOP1zWiNI-Ybq9f0yev6MY_WYB0-pIHnilzH8VmoJcEtdifApIy92AbjeNo/s1600-h/WINWIN.gif"><img style="cursor:pointer; cursor:hand;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhVSP4HKuFbbZh2M8rEIN8nagNrQePBrZyV7kcF-gG3NxzuOLBzruYoGj6CQiZs0XKX39_lVUyqni__5DXrpAOP1zWiNI-Ybq9f0yev6MY_WYB0-pIHnilzH8VmoJcEtdifApIy92AbjeNo/s320/WINWIN.gif" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5134928152299345010" /></a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-50863511564616335832007-11-09T03:37:00.000+07:002007-11-09T04:29:43.533+07:00เรื่องนี้พูดไม่ิออก หรือ ไม่อยากพูดห่างหายจากการเขียน blog มานาน ... เดิมทีจุดประสงค์ของการเขียน blog เพื่อบันทึกความสุข และ ประสบการณ์ ระยะหลัง ประสบการณ์หลายๆอย่างไม่ชวนบันทึกเอาเสียเลย <br /><br />เรื่องนี้ีเดิมทีไม่อยากจะบันทึก แต่จำเป็นต้องบันทึกเพราะเป็นเรื่องที่ต้องบันทึกเพื่อปรับปรุงตนเอง และ หาทางป้องกันเหตุที่จะเกิดในอนาคต<br /><br />้หลายวันมานี้เจอเหตุการณ์สูญเสียเครดิต (ต่างจากคุณพ่อน้องลูกคิด) โดยเครดิตที่ว่าคือ "ความน่าเชื่อถือ" เนื่องจากผู้ใหญ่ท่านนึง อ้างว่า ได้รับรายงานจาก(เรา)ไปบอกคู่ค้า ในสิ่งที่ผิดไปจากที่รายงาน <br /><br />เรื่องแบบนี้ หากตอบกลับไป ผู้ใหญ่(มั้ง)ก็เสียผู้ใหญ่ ไม่ตอบเราก็เสียเครดิตว่ารายงานเท็จ เรียกว่าสุดกล้ำกลืน (ได้แต่ภาวนา เมื่อไรน้อจะไม่มายุ่งกับเราอีก เว้นๆจากเราบ้างก็ได้) การแก้ต่างจะกลายเป็นสาดโคลนใส่กันอย่างนักการเมือง<br /><br />เรื่องที่จำเป็นต้องแก้ไข คือ แก้ไขที่เราเองก่อน จะสื่อสารเรื่องเทคนิคอย่างไรให้เข้าใจได้ง่าย และไม่ถูกนำไปแปลความในสิ่งที่ผิดจากความเป็นจริง<br /><br />แนวทางคือ:<br />- สื่อสารด้วยภาพ และ flow<br />- เตรียมข้อมูลให้พร้อม (เอ่อ บางครั้งก็จวนตัว อยู่ดีๆ ก็ถูกถามกลางห้องประชุม แบบนี้ ตูจะเตรียมได้อย่างไร) ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมเสมอ (พร้อมรบ)<br />- โต้เถียงเลย คงไม่ใช่วิสัย เพราะทำทีไรก็เหนื่อยใจกลับมาทุกที อธิบายด้วยเหตุผล <br />- เลี่ยงที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลท่านนี้ (มิใช่หนทางที่ดีนัก)<br /><br /><a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgoXyy55T9I53MaS20m2OwhvY0XuGhMz8Xce-TTHNYIIrLEHcArGA6S38VWon-IxPBJHUSI_HeRdt8MRCUH-TEg2nYapM1yePpQpU2nBnxEK60NqngviL5etdM3ZvmHhUusMNVaa-xIUWZ4/s1600-h/miss_communication.JPG"><img style="cursor:pointer; cursor:hand;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgoXyy55T9I53MaS20m2OwhvY0XuGhMz8Xce-TTHNYIIrLEHcArGA6S38VWon-IxPBJHUSI_HeRdt8MRCUH-TEg2nYapM1yePpQpU2nBnxEK60NqngviL5etdM3ZvmHhUusMNVaa-xIUWZ4/s320/miss_communication.JPG" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5130583077806440738" /></a>Unknownnoreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-38026386474947428482007-10-19T14:40:00.000+07:002007-10-19T14:43:36.045+07:00เรือลำเดียว<a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiOhqxHPoCjAus1ETjLt20FOPAkLc_9tf1A-03h4gVJ-XnHMeg_klVQaGikn8c39Yrde50oI_dO23t16wsNoVYFkne5QblCKQ4FLBT59pXERjrGO-2hlj64q7GogTMmrtCD5QBzzWKVUpKb/s1600-h/Manual_22_1.gif"><img style="cursor:pointer; cursor:hand;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiOhqxHPoCjAus1ETjLt20FOPAkLc_9tf1A-03h4gVJ-XnHMeg_klVQaGikn8c39Yrde50oI_dO23t16wsNoVYFkne5QblCKQ4FLBT59pXERjrGO-2hlj64q7GogTMmrtCD5QBzzWKVUpKb/s320/Manual_22_1.gif" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5122949959662654146" /></a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-19332351028759498262007-10-06T21:22:00.000+07:002007-10-06T21:39:59.822+07:00The Tree...<object height="350" width="425"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/ADV3DBPJK9s"><param name="wmode" value="transparent"><embed src="http://www.youtube.com/v/ADV3DBPJK9s" type="application/x-shockwave-flash" wmode="transparent" height="350" width="425"></object><br /><br />เห็นวีดีโอนี้แล้ว สะท้อนใจหลายแง่มุม ตั้งแต่สิ่งแวดล้อมที่ใกล้ตัวเรา จนถึง..... <br /><br />หวังว่า... จะกลับมารุ่งเรืองเช่นวีดีโอนี้Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-71531102368301210962007-09-29T21:32:00.000+07:002007-09-29T21:55:20.642+07:00The Five Dysfunctions of a Teamเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสอบรม(ภายใน) อาจารย์ให้อ่านหนังสือมาก่อน ด้วยความขยันน้อย จึงอ่านจบไปเพียง part เดียว (ตามที่มีอีเมล์แจ้งมา) อาจารย์สอน 2 part น่ายินดีที่ผู้เข้าอบรมให้ความสนใจ <br /><br />สันนิษฐานว่า:<br />- มีการเตรียมตัวมาก่อน<br />- เนื้อหาเป็นเรื่องที่สนใจ หรือ กำลังประสบปัญหาอยู่<br />- ให้ความร่วมมือ ไม่มีใครนำ notebook เข้าเลย (เป็นสิ่งที่ในหนังสือกล่าวไว้)<br /><br /><br /><br />วันนี้เริ่มอ่าน part 2 ก็ยังไม่จบ เป็นเรื่องนี้สนุกจริงๆ (ศัพท์ไม่ง่ายนัก ใช้ Dictionary บ่อย)<br /><br />สรุป ของหนังสือ The Five Dysfunctions of a Team <br><br /><br /><a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgG-a_B8Ch8RK5kidFXdFDsPNxcbH_L8Xwf0Hk8ae5cZp0QbB0xXK9nSiOHPNxeQ81KMlL_O0St8eG64Tm-YFm2qHCBsSP5hx5zn76Sv1hu7SmoFdw4MCyTTn-UFN8GbTIBwUf76FBVsfBl/s1600-h/5+dysfunction+plus-thumb.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgG-a_B8Ch8RK5kidFXdFDsPNxcbH_L8Xwf0Hk8ae5cZp0QbB0xXK9nSiOHPNxeQ81KMlL_O0St8eG64Tm-YFm2qHCBsSP5hx5zn76Sv1hu7SmoFdw4MCyTTn-UFN8GbTIBwUf76FBVsfBl/s400/5+dysfunction+plus-thumb.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5115639543072772738" /></a><br /><br /><a href="http://www.thepracticeofleadership.net/2007/03/21/book-review-the-five-dysfunctions-of-a-team/">http://www.thepracticeofleadership.net/2007/03/21/book-review-the-five-dysfunctions-of-a-team/</a> <br><br /><a href="http://www.brainbasedbusiness.com/2006/09/dynsfuntions_of_a_team.html">http://www.brainbasedbusiness.com/2006/09/dynsfuntions_of_a_team.html</a><br /><br /><a href="http://cnx.org/content/m14092/latest/">http://cnx.org/content/m14092/latest/</a>Unknownnoreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-61179154955351203302007-09-25T10:41:00.000+07:002007-09-25T10:49:11.830+07:00ครูแสนดีเช้านี้โชคดีได้สนทนากับนาย 2 ท่าน <br /><br />โชคชั้นที่ 1 เหตุเกิดจาก ระบบมีปัญหา ทำให้ #1 โทรมาที่โต๊ะ แจ้งปัญหา และภามว่า คุณสามารถแก้ปัญหาได้ใช่มั้ย (ตรวจสอบ และตอบว่า เห็นสาเหตุ) จากนั้นก็แก้ไขและได้รายงานผ่าน IM รู้สึกละอายเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ต้องให้ #1 มาบอก<br /><br />#1 ตอบกลับมาว่า<br /> <font color="red">แค่เห็น ไม่ใช่เข้าใจ แค่เข้าใจ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์</font><br /><br />แฝงปรัชญาให้เราได้กลับไปคิดอีก<br /><br />ไม่นานนัก #2 เดินมาหาที่โต๊ะ พร้อมยื่นหนังสือ ที่เคยขอยืม (ละอายเป็นครั้งที่ 2 ให้ผู้ใหญ่มาหา) #2 หาได้รู้สึกอย่างนั้น กลับอธิบาย เนื้อหาที่เราสนใจ อย่างตั้งอกตั้งใจ <br /><br />นี่แหล่ะ เสน่ห์ของการเป็นพนักงานของที่ทำงานนี้ ทำให้เราคิดนอกใจไม่ได้Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-17089064864854913942007-09-24T22:46:00.000+07:002007-09-24T23:10:56.399+07:00สาหัส<a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEglMDqRlmKrNGsAG_9nLIqg_6It97C520IX-i_SqjMaI2PFCj-4GcGt-323iEGesRoQZ1QSLj8c7hBTvLtuxAAHJXEN3_JygabJU5sQlU3Qujn5EYy2JxrJ0-Iu1_94Tql1TT0fkmooyMZm/s1600-h/The+Bear+Wish+Project.JPG"><img style="float:left; margin:0 10px 10px 0;cursor:pointer; cursor:hand;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEglMDqRlmKrNGsAG_9nLIqg_6It97C520IX-i_SqjMaI2PFCj-4GcGt-323iEGesRoQZ1QSLj8c7hBTvLtuxAAHJXEN3_JygabJU5sQlU3Qujn5EYy2JxrJ0-Iu1_94Tql1TT0fkmooyMZm/s400/The+Bear+Wish+Project.JPG" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5113799140996502098" /></a><br /><br />บาดเจ็บ จากการสื่อสารที่้ขาดการสื่อสาร ภาวะการผู้ใหญ่ คือ จึงไม่ควรตอบโต้ใดๆ ได้แต่ให้เวลาเป็นเครื่องช่วยรักษาความเจ็บปวด <br /><br />The Bear Wish Project ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ สิ่งที่เกิดข้างต้น นอกจาก เรื่องของ เวลา เพราะ มีเวลา ก็ไม่พลาดที่จะฆ่าเวลา ด้วยการ แวะร้านหนังสือ(พักกลางวัน) หน้าปกสะดุดตาอีกตามเคย ไม่ใช่หนังสือ ไอที (ผ่านเงื่อนไขที่ 1) ไม่ใช่หนังสือบริหารจัดการ (ผ่านเงื่อนไขที่ 2) ไม่ใช่หนังสือ how to (ผ่านเงื่อนไขที่ 3) <br /><br />ช่วงเย็นที่ผ่านมาระหว่างที่รถติดสนิท อ่านได้ 73 หน้า (เสียอย่างนึง ตัวหนังสือเล็กไปหน่อย) ไว้อ่านจบจะมาบันทึกไว้ มีเวลาจะทำ มุมหนังสือ เพิ่มเติม (wish list)Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-13196467293133879722007-09-23T22:33:00.000+07:002007-09-23T23:03:49.041+07:00เขียนสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย ขอรายงานประจำสัปดาห์ เรื่องนี้เป็นข้อเสียของเราเสียจริง ชอบทำ แต่ไม่ชอบเขียน(ส่วนตัว) ที่แย่คือ ไม่ทำรายงานของฝ่ายส่ง นั่นหมายความว่า ผลงาน ความคืบหน้าของคนทั้งฝ่าย ไม่เป็นที่รับรู้จากภายนอก<br /><br />เหตุผล ลึกๆ คือ เป็นคนเขียนไม่เก่ง และ รู้สึกว่าเขียนไม่ดี ในภาพของทั้งฝ่าย จึงไม่ยอมเขียนและไม่เริ่มเขียน แต่จากนี้เป็นสิ่งที่สัญญา(ใจ)ว่าจะส่ง ถ้าไม่เริ่ม คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงและพัฒนา <br /><br /><a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEial2ItRhuzEJAMbS197-ZR06OY46cstN8OSe4JkuQoKrCRZ_Kq_rOKw9ebTyOAbr7u4bH6O0HT4blMYVjmv7KXcnGU3G4GJOL9s-8X2I4fhAJgUrH7Z-amO3a2GOjVRgpJKeEefFR-Qiro/s1600-h/good+writing.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEial2ItRhuzEJAMbS197-ZR06OY46cstN8OSe4JkuQoKrCRZ_Kq_rOKw9ebTyOAbr7u4bH6O0HT4blMYVjmv7KXcnGU3G4GJOL9s-8X2I4fhAJgUrH7Z-amO3a2GOjVRgpJKeEefFR-Qiro/s400/good+writing.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5113429640665059906" /></a>Unknownnoreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3208735948734892439.post-45947296324568516942007-09-21T13:26:00.000+07:002007-09-21T22:11:11.913+07:00ชาร์ทแบต<font color="red">ผู้สูงอายุมักจะพูดว่า แก่แล้วก็ไม่มีอะไรดี </font> คำพูดนี้ท่าจะจริงสำหรับคนที่ไม่ใคร่ดูแลสุขภาพ เช่น ตัวเรานั่นเอง หลายสัปดาห์มานี้ป่วยด้วยอาการปวดศรีษะ ตุ่บ ตุ่บ สังเกตุว่าสามารถบรรเทาอาการด้วยการนอนพัก เมื่อคืนนี้เองก็เป็นอีกวันหนึ่ง ที่กลับถึงบ้านแล้วไม่สามารถทำงานทั้งที่สัญญากับเพื่อนร่วมงานว่าจะแก้ระบบ เพื่อคืนเซิร์ฟเวอร์แต่ไม่สามารถฝืนสังขารไหว<br /><br />ถึงบ้าน สามทุ่มกว่าๆ ผลอยหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็ ตี 5 เศษๆ เช้านี้รู้สึกดีขึ้น เหมือนได้ ชาร์ทแบต ให้กับชีิวิต ให้มาทำงานได้อีกวันหนึ่ง ขอบคุณ....ต่อชีวิตให้.... <br /><br /><a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiFXgtoKKANHn2AWF0rzlRGfklUd7nXrrg86JPeUAyAwkjBsv1gPmXNapa78DxdQJWIyP7aRaeXxFQXtICS1DMa_6RsDjqEUWpEKcZMuhz0ck3Lrkg23ez4nVN7HKX0qUhAoAWAoA_R4w2k/s1600-h/pwo0076l.jpg"><img style="cursor:pointer; cursor:hand;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiFXgtoKKANHn2AWF0rzlRGfklUd7nXrrg86JPeUAyAwkjBsv1gPmXNapa78DxdQJWIyP7aRaeXxFQXtICS1DMa_6RsDjqEUWpEKcZMuhz0ck3Lrkg23ez4nVN7HKX0qUhAoAWAoA_R4w2k/s400/pwo0076l.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5112540286082044434" /></a>Unknownnoreply@blogger.com0